“กลัวไม่เปลี่ยน” | “The fear is here to stay.”
สกุลรัตน์ ใจบุญ | Sakunrat Jaiboon สกุลรัตน์ ใจบุญ“กลัวไม่เปลี่ยน”, พ.ศ.2564วิดีโอ, เสียง และ ภาพพิมพ์บนกระดาษ250 × 270 ซม. Sakunrat Jaiboon“The fear is here to stay.”, 2021Video, sound and print
สกุลรัตน์ ใจบุญ | Sakunrat Jaiboon สกุลรัตน์ ใจบุญ“กลัวไม่เปลี่ยน”, พ.ศ.2564วิดีโอ, เสียง และ ภาพพิมพ์บนกระดาษ250 × 270 ซม. Sakunrat Jaiboon“The fear is here to stay.”, 2021Video, sound and print
หากใครเป็นแฟนคลับของร้านหนังสืออิสระ Book Re:public คงยังจำกันได้ว่าเราเปิดร้านครั้งแรกเมื่อปี 2011 ที่ สาขาคันคลอง จนย้ายมาที่ สาขาถนนกองบิน 41 (ปี2015 – 2019) และในครั้งที่ 3 ณ เวลานี้ เราได้ย้ายมาอยู่ที่ ซอยวัดอุโมงค์ แม้ขนาดของร้านจะเล็กลงกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ไม่ใช่อุปสรรคในการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ของพวกเราในปี 2021 นี้ ย้อนกลับไปในช่วงเวลา
บันทึกบทเรียนจากห้องเรียน ร้าย, Human Wrong 4 การเรียนรู้ครั้งใหม่ของพวกเราชาว Human ร้าย Human Wrong รุ่นที่ 4 เริ่มขึ้นในช่วงท้ายปี 2020 ปีแห่งการค้นหา และสัมผัส ‘ความเป็นมนุษย์’ ยังคงเป็นหัวใจหลักการเรียนรู้ของพวกเรา ในสังคมที่ทุกอย่างขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ข้อมูลข่าวสารจากผู้คนมากมายไหล่บ่าเข้ามาปะทะเราตลอดเวลา ผัสสะการรับรู้แห่งยุคสมัยถูกทำให้โฟกัสอยู่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ด้วยเทคโนโลยีต่างๆรอบตัว จนอดที่จะตั้งคำถามไม่ได้ว่า เราหลงลืมความละเอียดละออของ ‘ผัสสะ’
ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา พวกเรา Human ร้าย Human Wrong ได้มีโอกาสร่วมแสดงงานศิลปะในงาน Ubon Agenda 2020 วาระวาริน (งานจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 21-30 พฤษจิกายน) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่จัดต่อเนื่องมาจากงาน Khon Kaen Manifesto 2018 ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งใช้แนวคิดการสร้างพื้นที่ปฏิบัติการทางศิลปะ
Human is born with Human Rights…ทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมกันกับสิทธิมนุษยชน Human ร้าย, Human Wrong ปูพื้นฐาน สร้างความเข้าใจประเด็น สิทธิมนุษยชน แม้จะเป็นเรื่องที่ดูซับซ้อนไปเสียหน่อยในการกล่าวถึงประเด็นเรื่อง “สิทธิ” ในประเทศไทยว่าอำนาจที่ปัจเจกมีสิทธิในการเลือกใช้ชีวิตตามใจของตัวเองนั้นต้องเป็นไปอย่างไร คำว่า ‘ตามใจ’ นั้นมีขอบเขตอยู่ตรงไหนในฐานะมนุษย์และพลเมือง คำว่า ‘สิทธิ’ และ ‘สิทธิมนุษยชน’ มีความสำคัญอย่างมากต่อการใช้ชีวิตในวันธรรมดาๆ ของเราเองเพราะมันส่งผลต่อการตัดสินใจเลือก
โลกในทุกวันนี้ ใช้การสื่อสารด้วยภาพกันมากขึ้น เราจะสังเกตเห็นได้จากกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรานั้นต้องพบเจอการสื่อสารด้วย “ภาพ” อยู่ตลอดเวลา การสื่อสารด้วยภาพจึงเป็นอีกหนึ่งกลวิธีที่ดึงดูดให้ผู้รับสารให้ความสนใจ และ ทำให้การทำความเข้าใจข้อมูลนั้นง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น เช่น ภาพวาดประกอบ ภาพถ่าย สัญลักษณ์รูปทรงง่ายๆ รอบตัวเรา ซึ่งถือได้ว่า สิ่งที่เราเห็นเป็นภาพ เป็นภาษาในการสื่อสารอีกชุดหนึ่งในเวลานี้ไปแล้ว แล้วเราเคยสงสัยไหม ว่าทำไมเวลาเรามีภาพในหัวที่เราเข้าใจ แล้วเราต้องการจะสื่อสารภาพๆนั้น หรือข้อมูลนั้นๆ ให้คนอื่นเข้าใจ เขาจะเข้าใจตรงกับเราไหม ภาพที่เราคิด จะตรงกับที่เขาคิดด้วยหรือไม่ แล้วถ้าหากความเข้าใจในการสื่อสารคลาดเคลื่อน
ในเวลานี้จะเห็นได้ว่าเยาวชนมีส่วนขับเคลื่อนกระบวนการการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ และกล้าที่จะออกมาส่งเสียงถึงผู้ใหญ่ที่ยังควบคุมอำนาจอย่างไม่เป็นธรรม สถานการณ์ในเวลานี้เหมือนเป็นสิ่งยืนยันเราได้ว่า ความคิดแบบอนุรักษ์นิยมของคนรุ่นเก่า การบังคับใช้อำนาจที่ทำให้เด็กกลัว มันไม่ได้ผลอีกต่อไป เมื่อคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และเข้าใจสิทธิของตนเอง และความเท่าเทียมของคนในสังคมมากขึ้น แบบสอบถามพิเศษของเหล่าสมาชิก Humanร้าย ตั้งแต่รุ่นที่1 จนถึงรุ่นที่3 ในประเด็นที่พวกเขาต้องการแสดงออกและเป็นกระบอกเสียงของคนรุ่นใหม่ในการมองปัญหาการเมืองไทยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญของสังคมที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น “โจ้” หนึ่งในสมาชิก Humanร้ายรุ่นที่ 1 กับผลงานแนวคิดอันแสนคมคายกับการตั้งคำถามต่อเสียงเพลงที่สอดแทรกมายาคติต่อคำว่า”รักชาติ” “โจ้” Creative Director ที่ SHIFTER หนึ่งในสมาชิก
ในช่วงเวลานี้ ประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองไทยในปี 2563 ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เยาวชนและคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาททางการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทัศนคติทางการเมืองเป็นอย่างมากกว่าแต่เดิมที่เยาวชน คนรุ่นใหม่เกิดความกลัวและรู้สึกว่าการเมืองนั้นเป็นเรื่องไกลตัว แต่ในเวลานี้เวทีการแสดงออกของเยาวชนเปิดกว้างเป็นอย่างมากและสิ่งที่น่าสนใจคือการหากลวิธีในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ที่น่าจับตามอง แบบสอบถามพิเศษของเหล่าสมาชิก Humanร้าย ตั้งแต่รุ่นที่1 จนถึงรุ่นที่3 ในประเด็นที่พวกเขาต้องการแสดงออกและเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงของคนรุ่นใหม่ในการมองปัญหาการเมืองไทยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญของสังคมที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น “เต็ม” นักศึกษาจบใหม่ตอนนี้ทำงานด้านสถาปนิกหนึ่งในสมาชิก Humanร้ายรุ่นที่ 1 ซึ่งเคยฝากผลงานวิพกาษ์ความเพิกเฉยต่อปัญหาของคนในสังคม “เต็ม” ปัจจุบันทำงานด้านสถาปนิก หนึ่งในสมาชิก Humanร้ายรุ่นที่ 1 Q :
ในช่วงเวลานี้ ประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองไทยในปี 2563 ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เยาวชนและคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาททางการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทัศนคติทางการเมืองเป็นอย่างมากกว่าแต่เดิมที่เยาวชน คนรุ่นใหม่เกิดความกลัวและรู้สึกว่าการเมืองนั้นเป็นเรื่องไกลตัว แต่ในเวลานี้เวทีการแสดงออกของเยาวชนเปิดกว้างเป็นอย่างมากและสิ่งที่น่าสนใจคือการหากลวิธีในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ที่น่าจับตามอง บทสัมภาษณ์ พิเศษของเหล่าสมาชิก Humanร้าย ตั้งแต่รุ่นที่1 จนถึงรุ่นที่3 ในประเด็นที่พวกเขาต้องการแสดงออกและเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงของคนรุ่นใหม่ในการมองปัญหาการเมืองไทยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญของสังคมที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น “เอิร์ก” นักศึกษาจากคณะสื่อสารมวลชน ปีที่2 หนึ่งในสมาชิก Humanร้ายรุ่นที่ 3 ที่ฝากผลงานการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนตาบอดในสังคมที่คนพิการถูกละเลยจากรัฐ “เอิร์ก” นักศึกษาจากคณะสื่อสารมวลชน ปีที่2 หนึ่งในสมาชิก
โตมร ศุขปรีชา และ workshop การเขียนด้วยการใช้ผัสสะ รวมถึง pain point ส่วนบุคคล ดึงความบอบช้ำออกมาเพื่อเปลี่ยนมันให้เป็นรูปแบบเขียนที่หลากหลาย คราฟต์ตัวอักษรอย่างไรท่ามกลางยุคสมัยที่มิลเลนเนียลส์ต้องทำงานหนัก(ทั้งทางกายและทางความคิด) หากต้องเขียน สิ่งที่เขียนจะช่วยชีวิตเราไว้ในแง่สุนทรียศาสตร์และในแง่การเรียนรู้ตัวเองได้อย่างไร ไปไกลถึงการพลังในการเขียนเพื่อวิพากษ์ ใส่เสน่ห์ ปรุงยาเพื่อพาให้ผู้อ่านเกิดการสั่นไหวทางความคิด
ร้านหนังสืออิสระในเชียงใหม่ เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับการถกเถียงและแลกเปลี่ยนประเด็นทางสังคมและการเมือง เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และแนวคิดสังคมประชาธิปไตย